เกี่ยวกับศิลปิน

รีเบ็คก้า บัตเตอร์เวิร์ท, SENIOR ARTIST

ชนบทของอังกฤษวางรากฐานที่อุดมสมบูรณ์ให้กับ Senior Artist รีเบ็คก้า บัตเตอร์เวิร์ทและอาชีพช่างแต่งหน้าที่รุ่งโรจน์ของเธอ เพราะอาศัยอยู่ในซัมเมอร์เซต ชนบททางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษที่ทางเลือกด้านความบันเทิงมีจำกัด บัตเตอร์เวิร์ทจึงมีวิธีที่เธอนำมาใช้ขจัดความเบื่อหน่ายนั่นคือการเริ่มทดลองแต่งหน้าให้กับเพื่อนๆ และสมาชิกในครอบครัว จนทุกวันนี้เธอสามารถถ่ายทอดประวัติศาสตร์ศิลปะของอังกฤษให้ได้ลุคที่งดงามดั่งบทละครและบทกวี

และนี่คือสิ่งที่เธอเล่า... ตั้งแต่การเป็นมือสมัครเล่นผู้กระตือรือร้นและอยากเรียนรู้จนกลายมาเป็นสมาชิกผู้เป็นที่รักคนหนึ่งในทีม M•A•C

ส่องประกายดุจเพชรเม็ดงาม

“วิธีดูแลความงามของฉันนั้นเรียบง่าย นั่นคือ ยิ้มและคิดแต่สิ่งดีๆ! ฉันจดจำคำกล่าวของโรอัลด์ ดาห์ลไว้ได้ขึ้นใจ ‘คนที่คิดดีไม่มีวันน่าเกลียด จมูกของคุณอาจจะสั่น ปากเบี้ยว คางสองชั้น ฟันยื่น แต่ถ้าคุณคิดดี ความคิดดีๆ ของคุณจะฉายออกมาจากใบหน้าเหมือนลำแสงจากดวงอาทิตย์ และนั่นจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่น่ารัก’ เพราะเหตุนี้ฉันเลยมักจะสร้างสรรค์ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติเสมอเพื่อให้ความสวยงามที่ซ่อนอยู่ในผู้คนได้ส่องแสงออกมา ลุคประจำตัวฉันก็คือผิวที่เนียนและริมฝีปากอิ่มสวย”

ปัดขนตาให้ถึงดวงดาว

“ฉันเติบโตในซัมเมอร์เซต ชนบทที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ แต่บางทีก็ไม่มีอะไรให้ทำมากนัก ฉันเลยใช้เวลาไปกับการวาดรูป ระบายสี จนมาถึงช่วงเป็นวัยรุ่น ก็เริ่มแต่งหน้าตัวเองกับแต่งให้เพื่อนๆ! ฉันเรียนรู้ตั้งแต่ตอนนั้นถึงความสำคัญของการสร้างกรอบให้ดวงตา ฉันชอบขนตาที่หนาเป็นแพ และวิธีของฉันก็คือ ใช้แปรง 212 Brush เกลี่ย Fluidline สี Blacktrack ขึ้นมาบางๆ แล้วลากไปตามขอบตาบนด้านใน จากนั้นฉันจะใช้แปรงอันเดียวกันแทนมาสคาร่ามาปัดขนตาล่างเพื่อแยกขนตาแต่ละเส้นออกจากกัน ให้ขนตาเรียงตัวสวยไม่ติดกันเป็นก้อนค่ะ”

ใต้เงายักษ์

“ความที่ฉันเป็นคนที่คลั่งไคล้อเล็กซานเดอร์ แมคควีนมาก การได้ทำงานเบื้องหลังแฟชั่นโชว์คอลเลคชั่น ‘Salem Witch’ ของเขาในปี 2007 จึงถือเป็นไฮไลท์ในอาชีพของฉันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้เห็นคอลเลคชั่นนี้มีชีวิตขึ้นมาจริงๆ รวมถึงการได้ดูการสร้างสรรค์เทรนด์แต่งหน้าที่สุดยอด (ต่อมาได้กลายเป็นคอลเลคชั่นของ M•A•C รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น) แมคควีนใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ อยู่ที่พิพิธภัณฑ์วิคตอเรียแอนด์อัลเบิร์ต และถ้าฉันจะหาแรงบันดาลใจ ฉันจะไปที่ National Portrait Gallery แล้วไปนั่งอยู่ด้านหน้ากลุ่มพรีราฟาเอลไลท์และฮอลไบน์เพื่อซึมซับความเป็นอัจฉริยะของพวกเขาหรือไม่งั้นฉันก็จะเปิดดูหนังสือประวัติศาสตร์ศิลปะของตัวเอง”